วันพุธที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2556

ถอดคำประพันธ์ ขุนช้างขุนแผน ตอน ขุนช้างถวายฎีกา 6


          ครานั้นพระองค์ผู้ทรงเดช             ฟังเหตุขุ่นเคืองเป็นหนักหนา
อ้ายหมื่นไวยทำใจอหังการ์                      ตกว่าบ้านเมืองไม่มีนาย
จะปรึกษาตราสินให้ไม่ได้                       จึงทำตามน้ำใจเอาง่ายง่าย
ถ้าฉวยเกิดห่าฟันกันล้มตาย                    อันตรายไพร่เมืองก็เคืองกู
อีวันทองกูให้อ้ายแผนไป                        อ้ายช้างบังอาจใจทำจู่ลู่
ฉุดมันขึ้นช้างอ้างถึงกู                             ตะคอกขู่อีวันทองให้ตกใจ
คำศัพท์
ตกว่า  หมายถึง  ราวกับว่า
ตราสิน  หมายถึง  แจ้งความไว้เพื่อเป็นหลักฐาน
จู่ลู่  หมายถึง  หุนหันพลันแล่น ในความว่า “อ้ายช้างบังอาจใจทำจู่ลู่”
ถอดความได้ว่า
            เมื่อพระพันวษาได้ฟังความจากนางวันทอง ก็โกรธจมื่นไวยที่ทำการอุกอาจทำเหมือนบ้านเมืองไม่มีกฎหมาย   ถ้าเกิดมีการฆ่าฟันล้มตาย ประชาชนจะขุ่นเคืองพระพันวษาได้  ทางด้านขุนช้างก็ผิดที่ไปฉุดตัวนางวันทองมา  แล้วยังอ้างชื่อพระพันวษาไปข่มขู่พาตัวนางวันทองมา 

 ------------------------------------------------------------------------------- 

ชอบตบให้สลบลงกับที่                               เฆี่ยนตีเสียให้ยับไม่นับได้
มะพร้าวห้าวยัดปากให้สาใจ                      อ้ายหมื่นไวยก็โทษถึงฉกรรจ์
มึงถือว่าอีวันทองเป็นแม่ตัว                       ไม่เกรงกลัวเว้โว้ทำโมหันธ์
ไปรับไยไม่ไปในกลางวัน                          อ้ายแผนพ่อนั้นก็เป็นใจ
มันเหมือนวัวเคยขาม้าเคยขี่                     ถึงบอกกูว่าดีหาเชื่อไม่
อ้ายช้างมันก็ฟ้องเป็นสองนัย                    ว่าอ้ายไวยลักแม่ให้บิดา
คำศัพท์
วัวเคยขาม้าเคยขี่  หมายถึง คุ้นเคยกันมาอย่างดี รู้ทีกัน เข้าใจในทำนองของกันและกัน สำนวนนี้ส่วนมากใช้กับคนที่เคยเป็นสามี ภรรยากัน
ถอดความได้ว่า
เฆี่ยนตีขุนช้างให้สลบคาที่ แล้วเอามะพร้าวห้าวยัดปาก จมื่นไวยก็มีความผิดฉกรรจ์ที่ไปพาตัวนางวันทองมากลางดึก  คงจะมีขุนแผนผู้เป็นพ่อคอยหนุนหลัง  เพราะว่าขุนช้างเอาเรื่องมาบอกพระพันวษาว่า จมื่นไวยฉุดนางวันทองกลับไปให้พ่อถือว่าเป็นความผิด

 -------------------------------------------------------------------------------
  

เป็นราคีข้อผิดมีติดตัว                                   หมองมัวมลทินอยู่หนักหนา
ถ้าอ้ายไวยอยากจะใคร่ได้แม่มา                  ชวนพ่อฟ้องหาเอาเป็นไร
อัยการศาลโรงก็มีอยู่                                     หรือว่ากูตัดสินให้ไม่ได้
ชอบทวนด้วยลวดให้ปวดไป                     ปรับไหมให้เท่ากับชายชู้
มันเกิดเหตุทั้งนี้ก็เพราะหญิง                      จึงหึงหวงช่วงชิงยุ่งยิ่งอยู่
จำจะตัดรากใหญ่ให้หล่นพรู                       ให้ลูกดอกดกอยู่แต่กิ่งเดียว
คำศัพท์
ทวนด้วยลวด  หมายถึง เฆี่ยนตีด้วยหนังที่ทำเป็นเส้นยาวๆซึ่งเรียกว่าลวดหนัง
ถอดความได้ว่า
ถ้าจมื่นไวยอยากได้ตัวแม่  ทำไมไม่พาพ่อมาฟ้องศาล  หรือคิดว่าพระพันวษาไม่สามารถตัดสินให้ได้ ต้องลงโทษด้วยลวดและปรับ  ส่วนขุนช้างก็บังอาจอ้างราชโองการ ควรตบให้สลบ แล้วเอามะพร้าวยัดปาก แล้วรับสั่งว่าจะต้องแก้ปัญหานี้ให้จบเสียที ต้องตัดรากใหญ่(ปัญหา) ให้เหลือลูกดอกกิ่งเดียว (ให้นางวันทองตัดสินใจเลือกเพียงหนึ่ง)

 ------------------------------------------------------------------------------- 



อีวันทองตัวมันเหมือนรากแก้ว                         ถ้าตัดโคนขาดแล้วก็ใบเหี่ยว
ใครจะควรสู่สมอยู่กลมเกลียว                           ให้เด็ดเดี่ยวรู้กันแต่วันนี้
เฮ้ยอีวันทองว่ากระไร                                         มึงตั้งใจปลดปลงให้ตรงที่
อย่าภวังค์กังขาเป็นราคี                                      เพราะมึงมีผัวสองกูต้องแค้น
ถ้ารักใหม่ก็ไปอยู่กับอ้ายช้าง                             ถ้ารักเก่าเข้าข้างอ้ายขุนแผน
อย่าเวียนวนไปให้คนมันหมิ่นแคลน                ถ้าแม้นมึงรักไหนให้ว่ามา
คำศัพท์
รากใหญ่  หมายถึง นางวันทอง
ถอดความได้ว่า
            นางวันทองเหมือนกับรากแก้วถ้าตัดโคนได้แล้วใบก็จะเหี่ยวไปเอง พระพันวษาตรัสว่านางวันทองจะตกลงยังไง อย่าลังเลเพราะมีทั้งผัวและลูก ถ้ารักใหม่ก็ให้ไปอยู่กับขุนช้าง แต่ถ้ารักก็เลือกขุนแผน อย่าชักช้าคนจะนินทาเอาได้ จะเลือกใครก็ว่ามา

  -------------------------------------------------------------------------------


 ครานั้นวันทองฟังรับสั่ง                                        ให้ละล้าละลังเป็นหนักหนา
ครั้นจะทูลกลัวพระราชอาญา                                ขุนช้างแลดูตายักคิ้วลน
พระหมื่นไวยใช้ใบ้ให้แม่ว่า                                  บุ้ยปากตรงบิดาเป็นหลายหน
วันทองหมองจิตคิดเวียนวน                                  เป็นจนใจนิ่งอยู่ไม่ทูลไป
        ครานั้นพระองค์ทรงธรณินทร์                      หาได้ยินวันทองทูลขึ้นไม่
พระตรัสความถามซักไปทันใด                            หรือมึงไม่รักใครให้ว่ามา
ถอดความได้ว่า
นางวันทองได้ฟังคำพระพันวษาก็เกิดลังเลว่าจะเลือกใคร มองไปทางขุนช้างก็ยักคิ้ว มองไปทาง
จมื่นไวยก็ทำปากบุ้ยไปตรงพ่อ วันทองคิดวนไปวนมา ก็ยังไม่ทูลอะไรแก่พระพันวษา พระพันวษาไม่เห็นว่านางวันทองทูลอะไร ทรงตรัสถามต่อว่าจะไม่รักใครให้ว่ามา

 ------------------------------------------------------------------------------- 



จะรักชู้ชังผัวมึงกลัวอาย                                          จะอยู่ด้วยลูกชายก็ไม่ว่า
ตามใจกูจะให้ดังวาจา                                              แต่นี้เบื้องหน้าขาดเด็ดไป
            นางวันทองรับพระราชโองการ               ให้บันดาลบังจิตหาคิดไม่
อกุศลดลมัวให้ชั่วใจ                                                ด้วยสิ้นในอายุที่เกิดมา
คิดคะนึงตะลึงตะลานอก                                        ดังตัวตกพระสุเมรุภูผา
ให้อุธัจอัดอั้นตันอุรา                                                เกรงผิดภายหน้าก็สุดคิด
ถอดความได้ว่า
จะไปอยู่กับลูกไหม ตามแต่ใจ แต่ถ้าตอบมาแล้วจะเปลี่ยนแปลงไม่ได้  นางวันทองรับพระราชโองการดังนั้นก็คิดไม่ออก ถึงเวลาสิ้นอายุ จึงเกิด “อกุศล” ทำให้ประหม่าและเกรงว่าจะตัดสินใจผิด

  -------------------------------------------------------------------------------


จะว่ารักขุนช้างกระไรได้                                      ที่จริงใจมิได้รักแต่สักหนิด
รักพ่อลูกห่วงดังดวงชีวิต                                       แม้นทูลผิดจะพิโรธไม่โปรดปราน
อย่าเลยจะทูลเป็นกลางไว้                                      ตามพระทัยท้าวจะแยกให้แตกฉาน
คิดแล้วเท่านั้นมิทันนาน                                       นางก้มกรานแล้วก็ทูลไปฉับพลัน
ความรักขุนแผนก็แสนรัก                                     ด้วยร่วมยากมานักไม่เดียดฉันท์
สู้ลำบากบุกป่ามาด้วยกัน                                       สารพันอดออมถนอมใจ
ถอดความได้ว่า
จะว่ารักขุนช้างก็ไม่ได้เพราะตนไม่ได้รัก ถ้าเกิดทูลพระพันวษาผิดก็จะเป็นทูล จึงทูลเป็นกลางๆตามแต่พระทัยของพระพันวษาว่าจะตัดสินใจอย่างไร จึงทูลออกไปว่าขุนแผนนั้นก็แสนรักร่วมทุกข์ร่วมสุขด้วยกันมานาน

 ------------------------------------------------------------------------------- 


ขุนช้างแต่อยู่ด้วยกันมา                                         คำหนักหาได้ว่าให้เคืองไม่
เงินทองกองไว้มิให้ใคร                                        ข้าไทใช้สอยเหมือนของตัว
จมื่นไวยเล่าก็เลือดที่ในอก                                   ก็หยิบยกรักเท่ากันกับผัว
ทูลพลางตัวนางเริ่มระรัว                                      ความกลัวอาญาเป็นพ้นไป
                ครานั้นพระองค์ผู้ทรงภพ                     ฟังจบแค้นคลั่งดังเพลิงไหม้
เหมือนดินประสิวปลิวติดกับเปลวไฟ                  ดูดู๋เป็นได้อีวันทอง
ถอดความได้ว่า
ขุนช้างอยู่ด้วยกันมาก็ไม่เคยทำเรื่องให้ขุ่นเคืองใจและมีเงินทองบ่าวไพร่ใช้ไม่ขัดสน ส่วนจมื่นไวยที่เป็นลูกชายก็เป็นเหมือนเลือดในอก ย่อมรักเท่ากับรักผัวอยู่แล้ว ทูลเสร็จนางวันทองก็สั่นด้วยความกลัว
หลังจากนางวันทองทูล พระพันวษากริ้วอย่างมากเหมือนดินประสิวที่โดนไฟแล้วปะทุ

 ------------------------------------------------------------------------------- 


จะว่ารักข้างไหนไม่ว่าได้                                        น้ำใจจะประดังเข้าทั้งสอง
ออกนั่นเข้านี่มีสำรอง                                             ยิ่งกว่าท้องทะเลอันล้ำลึก
จอกแหนแพเสาสำเภาใหญ่                                   จะทอดถมเท่าไรไม่รู้สึก
เหมือนมหาสมุทรสุดซึ้งซึก                                   น้ำลึกเหลือจะหยั่งกระทั่งดิน
อิฐผาหาหาบมาทุ่มถม                                            ก็จ่อมจมสูญหายไปหมดสิ้น
อีแสนถ่อยจัญไรใจทมิฬ                                        ดังเพชรนิลเกิดขึ้นในอาจม
ถอดความได้ว่า
นางวันทองไม่ยอมบอกว่าจะเลือกใคร พระพันวษารับสั่งด่านางวันทองว่ารักข้างไหนเลือกไม่ถูกจะเอาไว้สำรองทั้งสองยิ่งว่าความลึกของทะเลทอดสมอลึกเกินจะหยั่งถึงได้ คนถ่อย จัญไร ใจทมิฬ เหมือนเพชรที่เกิดในสิ่งสกปรก


  -------------------------------------------------------------------------------

รูปงามนามเพราะน้อยไปหรือ                               ใจไม่ซื่อสมศักดิ์เท่าเส้นผม
แต่ใจสัตว์มันยังมีที่นิยม                                          สมาคมก็แต่ถึงฤดูมัน
มึงนี่ถ่อยยิ่งกว่าถ่อยอีท้ายเมือง                               จะเอาเรื่องไม่ได้สักสิ่งสรรพ์
ละโมบมากตัณหาตาเป็นมัน                                  สักร้อยพันให้มึงไม่ถึงใจ
ว่าหญิงชั่วผัวยังคราวละคนเดียว                           หาตามตอมกันเกรียวเหมือนมึงไม่
หนักแผ่นดินกูจะอยู่ไย                                           อ้ายไวยมึงอย่านับว่ามารดา
ถอดความได้ว่า
หน้าตาสวยงามชื่อเพราะน้อยไปหรือถึงได้จิตใจไม่ซื่อเท่ากับเส้นผม เลวกว่าสัตว์เพราะสัตว์ยังมีฤดูผสมพันธุ์  หญิงชั่วยังมีผัวคราวละคน จะอยู่ให้หนักแผ่นดินทำไม ทรงหันไปตรัสกับจมื่นไวยว่าอย่านับนางวันทองเป็นแม่ให้อายเขา

  -------------------------------------------------------------------------------


กูเลี้ยงมึงถึงให้เป็นหัวหมื่น                                   คนอื่นรู้ว่าแม่ก็ขายหน้า
อ้ายขุนช้างขุนแผนทั้งสองรา                                 กูจะหาเมียให้อย่าอาลัย
หญิงกาลกิณีอีแพศยา                                            มันไม่น่าเชยชิดพิสมัย
ที่รูปรวยสวยสมมีถมไป                                        มึงตัดใจเสียเถิดอีคนนี้
เร่งเร็วเหวยพระยายมราช                                      ไปฟันฟาดเสียให้มันเป็นผี
อกเอาขวานผ่าอย่าปรานี                                        อย่าให้มีโลหิตติดดินกู
เอาใบตองรองไว้ให้หมากิน                                   ตกดินจะอัปรีย์กาลีอยู่
ฟันให้หญิงชายทั้งหลายดู                                      สั่งเสร็จเสด็จสู่ปราสาทชัย
ถอดความได้ว่า
รับสั่งขุนช้างกับขุนแผนพระองค์จะทรงหาเมียใหม่ให้ แล้วรับสั่งให้เอานางวันทองไปประหารชีวิต เอาขวานผ่าอก แล้วเอาใบตองมารองเลือดให้หมากิน อย่าให้เลือดอัปรีย์กาลีตกถึงพื้นดินเลย รับสั่งเสร็จก็เสด็จเข้าสู่ปราสาทที่ประทับ

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------
***********
           ถอดคำประพันธ์โดยเด็ก 6/7 นบ. รุ่น81





14 ความคิดเห็น:

  1. ขอบคุณสำหรับการถอดคำประพันธ์ ขุนช้างขุนแผน ตอน ขุนช้างถวายฎีกามากๆค่ะ

    ตอบลบ
  2. ขอบคุนมากๆๆเลยน่ะค่ะ ช่วยได้มากเลยย

    ตอบลบ
  3. ขอบคุณที่ทำให้เรามีงานส่งอาจารย์#ฟ้า

    ตอบลบ
  4. มีสาระมากๆ ขอบคุณน้ะค้ะ ^/\^

    ตอบลบ
  5. ขอบคุณมากๆเลยค่า

    ตอบลบ
  6. ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ

    ตอบลบ
  7. ขอบคุณมากๆเลยค่ะ ช่วยได้มากเลย

    ตอบลบ
  8. เป็นบุญอย่างยิ่ง T^T

    ตอบลบ
  9. มีงานส่งแล้ววว TㅇT
    ขอบคุณมากๆๆ นะคะ *3*

    ตอบลบ